Monday, May 30, 2016

สาเหตุที่ "พลเอกเชาวลิต" ต้องการจะกลับมาลงการเมืองอีกสักครั้ง

โดย พุทธรักษ์

สาเหตุที่พลเอกเชาวลิต ต้องการจะกลับมาลงการเมืองอีกสักครั้ง 

เพราะมีสิ่งที่ค้างคาใจอยู่ 

1.  บิ๊กจิ๋วต้องการเปลี่ยนให้ทหารเป็นทหารประชาธิปไตย ไม่ยึดอำนาจ ครั้งที่เคยดำรงตำแหน่ง แกเคยเข้าเฝ้าพระราชทานคำปรึกษาแนวคิดเรื่องนี้แห ล่ะต่อพูมิพน ผลแกต้องลาออกจากราชการก่อนเกษียณ ยังคาใจแกอยู่ 

2. พระราชบัญญัติอิสลามออกตอนที่ท่านเป็นนายก สมัยนั้นกลุ่มวาดะห์ของ วันนอร์ มีบทบาทในพรรคความหวังใหม่มาก จนพรรคความหวังใหม่กวาดสส.นราธิวาสเรียบ

3. ที่นั่ง จากโครงการฮารับปันบารูสู่ความหวังใหม่ ทำให้กลายเป็นข้อต่อรองในการออกพรบ.ฉบับนี้ซึ่งกลายเป็นปัญหาลุกลามใหญ่โตจนถึงปัจจุบัน ทหารอย่างบิ๊กจิ๋ว ใครทำต้องตามไปแก้ จึงประกาศก่อนเพื่อนว่าจะลงเลือกตั้ง แกนอนตายตาไม่หลับ พระราชบัญญัติ การบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. ๒๕๔๐ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นปีที่ ๕๒ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยมัสยิดอิสลามและกฎหมายว่าด้วยการศาสนูปถัมภ์ฝ่ายอิสลาม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้ หมวด ๔ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด มาตรา ๒๓ จังหวัดใดมีราษฎรนับถือศาสนาอิสลามและมีมัสยิดตามมาตรา ๑๓ ไม่น้อยกว่าสามมัสยิด ให้คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยประกาศให้จังหวัดนั้นมีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดคณะหนึ่งประกอบด้วยกรรมการมีจำนวนไม่น้อยกว่าเก้าคนแต่ไม่เกินสามสิบคน การคัดเลือกกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการให้อิหม่ามประจำมัสยิดในจังหวัดนั้นเป็นผู้คัดเลือก ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการด้วยกันเป็นประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ เลขานุการและตำแหน่งอื่นตามความจำเป็น ให้กระทรวงมหาดไทยประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ เลขานุการ และกรรมการอิสลามประจำจังหวัดในราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๒๖ ในจังหวัดที่มีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ 

 (๑) ให้คำปรึกษาและเสนอความเห็นเกี่ยวกับศาสนาอิสลามต่อผู้ว่าราชการจังหวัด มาตรา ๔๖ บรรดากฎกระทรวง ริะเบียบ ประกาศ และคำสั่งที่ออกตามพระราชบัญญัติมัสยิดอิสลาม พ.ศ. ๒๔๙๐ และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการศาสนูปถัมภ์ฝ่ายอิสลาม พุทธศักราช ๒๔๘๘ ให้ใช้บังคับโดยอนุโลมก่อนจนกว่าจะมีกฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ และคำสั่งตามพระราชบัญญัตินี้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินสองปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี

No comments:

Post a Comment